ระบบทุนนิยม ? เกี่ยวกันไหม

ระบบทุนนิยม

    การสร้างภาพลักษณ์ของผู้หญิงและเพศชายผ่านทางสื่อนั้นมีเป้าหมายเพื่อการค้า 

จากอิทธิพลของระบบทุนนิยม การค้า การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ซึ่งใช้หลักจิตวิทยา ชวนเชื่อ ใ้ห้ซื้อสินค้าบริการนั้นๆ เพื่อผลกำไรของบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายสินค้า โดยเฉพาะสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงามที่ทีเป้าหมายลูกคือคือ กลุ่มผู้หญิงที่ขาดความมั่นใจ

สตรีนิยมสายมาร์กซิสต์

มองผู้หญิงในด้านเกี่ยวกับทุนนิยม การกดขี่ผู้หญิงเกิดจากระบบเศรษฐกิจโดยรวม


สตรีนิยมสายสังคมนิยม


ระบบชายเป็นใหญ่ได้สร้างความเชื่อที่ว่า คุณค่าของผู้หญิงอยู่ที่ความสวยและความสาว
นำความเชื่อระบบชายเป็นใหญ่มาสัมพันธ์กับเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ผ่านทางการโฆษณา ผู้หญิงจึงตกเป็นหญือทางการค้าของธุรกิจเครื่องสำอางค์หลากหลายชนิดอย่างเต็มใจ เพื่อต้องการสวยและความสาวไว้

ทั้งวาทกรรม สื่อมวลชนและระบบทุนนิยมเกี่ยวข้องกันอย่างไร
เมื่อสื่อมวลชน คือ เครื่องมือของระบบทุนนิยมที่มุ่งหากำไรและผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจเป็นสำคัญ เฝ้าปลูกฝังผ่านวาทกรรมให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของกลไกในระบบทุนนิยม และผู้หญิงคือเพศที่อ่อนแอ อ่อนไหวง่าย จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจ
ความสวยความงาม คือปัจจัยหลักที่เป็นที่สนใจของผู้หญิงมากที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องจึงถูกสร้างขึ้น ผ่านการโฆษณาชวนเชื่อให้ใช้บริการ นั่นคือ ความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันระหว่าง ระบบทุนนิยมและสื่อมวลชน โดยใช้ผู้หยิงเป็นตัวขับเคลื่อน

สื่อมวลชน เกี่ยวยังไง ?

สื่อมวลชน

สังคมที่สื่อมวลชนสะท้อนภาพออกมาให้เราเห็น เป็นภาพสะท้อนของสังคมที่ชายเป็นใหญ่ 

ถ้าศึกษาจากงานนักวิเคราะห์แนวทางสิทธิสตรี มีแนวทางอธิบายได้ 2 ทาง คือ

1 การวิเคราะห์เชิงเศรษฐศาสตร์การเมือง

เสนอว่าผู้ชายเป็นใหญ่ เพราะผู้ชายในประวัติศาสตร์และกำลังเป็นอยู่นี้ ผู้ชายเป็นผู้ควบคุมเศรษฐกิจ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วรรณกรรม วรรณคดี การเมือง และระบบศีลธรรมจรรยา จึงถูกครอบงำโดยผู้ชายซึ่งเป็นผู้กำหนดมาตรฐานเหล่านั้นออกมา

2 ลักษณะทางกายภาพ อธิบายว่าชายใช้อำนาจในด้านพละกำลังเป็นเครื่องมือในการครอบงำเพศหญิง ตั้งแต่เรื่อง เศรษกิจ การเมือง ความเชื่อ ประเพณี รวมไปถึงค่านิยมต่างๆ

( แต่หากจะเปลี่ยนความคิดใหม่ต้องหันมามองด้านสมอง และจิตใจ ซึ่งลักษณะเหล่านี้ผู้หญิงไม่ด้อยกว่าผู้ชายแน่นอน )

การสะท้อนภาพผู้ชายในสื่อมวลชน

สังคมกำหนดว่า ผู้ชายเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นผู้นำ เข้มแข็ง ฉลาดเฉลียว

การสะท้อนภาพผู้หญิงในสื่อมวลชน

สังคมกำหนดบทบาทของผู้หญิงในฐานะของการเป็นแม่ และแม่บ้าน ผู้หญิงต้องอ่อนแอ อ่อนหงาน สวยงามสมบูรณ์แบบจึงจะเป็นที่หมายปองของผู้ชาย การสะท้อนภาพของผู้หญิงของสื่อมวลชน จึงเป็นการสะท้อนภาพด้านเดียว คือด้านวัตถุเพศเป็นหลัก

ผู้หญิงเราทำร้ายตัวเองทำไม

จวนนิต้า  วิลเลียมส์

"กล่าวว่าการทำร้ายตัวเอง ชอบทำให้ตัวเองเจ็บปวด นั้นเป็นลักษณตามธรรมชาติของเพศหญิง  เห็นได้จากสตรีสมัยพระเจ้าซาร์ ถือว่าการทุบตีของสามีเป็นเครื่องหมายของความรัก"

Why not ?
                  เพราะผู้หญิงเราขาดความมั่นใจในตัวเอง พยายามที่จะทำให้ตัวเองดูดีอยู่ตลอดเวลา เมื่อไม่พอใจก็ต้องสรรหาสิ่งมาเพิ่มเติม อาจจะด้วยการทำศัลยกรรม จ่ายเงินไปกับค่าเข้าสถานเสริมความงามเกินความจำเป็น จนถึงขั้นเสพติด 

            Hang Mioku 

           หญิงชาวเกาหลีผู้นี้ชื่อว่า Hang Mioku ปัจจุบันนี้ เธอเริ่มทำศัลยกรรมครั้งแรกเมื่ออายุ 28 ปีเธอทำศัลยกรรมหลายๆต่อหลายครั้ง ส่วนใหญ่ที่บริเวณใบหน้า  หลังการผ่าตัดผ่านไปหลายๆ ครั้ง ใบหน้าของเธอเริ่มขยายใหญ่โตและบิดเบี้ยวผิดรูปร่างไป  เป็นคราวเคราะห์ของ Hang Mioku เมื่อเธอได้พบกับศัลยแพทย์ผู้หนึ่งที่ยินยอมฉีดซิลิโคนที่ใบหน้าให้กับเธออีก ซ้ำร้ายกว่านั้นถึงกับให้เข็มฉีดยาและซิโลโคนเพื่อให้เธอสามารถฉีดได้ด้วยตนเอง  เมื่อซิลิโคนหมด Hang Mioku ใช้น้ำมันสำหรับปรุงอาหารแทนซิลิโคนฉีดไปในใบหน้าของเธอเอง แต่ปัจจุบันนี้คุณหมอก็ได้แก้ไขใบหน้าของเธอ แต่ก็ช่วยได้เพียงเอาพังผืดที่มันอยู่ใต้ผิวหนังออกให้

      ( ขอบคุณ Dek-d.com สำหรับข้อมูลของHang Mioku )

           จะว่าเป็นคราวเคราะห์ของเธอก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะการที่ไม่รู้จักหยุดเมื่อได้ทำแล้วก็จะทำยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ พอสุดท้ายแล้วมานึกเสียใจทีหลังมันก็ไม่ใช่เรื่อง เพราะเราทำตัวเราเองแต่ถ้าหยุดคิดนิดนึงว่ามันคุ้มหรือไม่ หรือถ้าได้ทำไปแล้วก็ต้องรู้จักควบคุมตัวเองให้หยุดอยู่แค่นั้น แต่อย่าลืมนึกด้วยว่า"อะไรที่มันสำคัญกว่ารูปร่างภายนอก"

 

          "ตุ๊กกี้"  ดาราตลกหญิง ถึงแม้ว่าเธอจะไม่สวยแต่เรียนรู้ที่จะใช้จุดด้อยของตัวเองมาเป็นจุดเด่นได้ บวกกับความสามารถในการแสดงที่เรียกเสียงหัวเราะจากผู้ชม ตอนนี้ตุ๊กกี้เป็นดาราตลกที่ทุกคนชื่นชอบได้ด้วยความสามารถของเธอเอง

    "โอปอลล์ ปาณิสรา" นักแสดง พิธีกร ดีเจ เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สวยสมบูรณ์แบบ อย่างที่สังคมกำหนด หรือค่านิยมที่ผู้หญิงจะสวยก็ต้องผิวขาว หุ่นดแต่มันก็ไม่ใช่เสมอไป ใช่ว่าผู้หญิงที่ไม่ขาว ไม่ผอมจะไม่มีความสามารถเธอก็เป็นบุคคลหนึ่งที่ทำให้เรารู้ว่า สวยด้วยความคิดนั้นมีค่ากว่าภายนอกจริงๆ

วาทกรรมคืออะไร ?

วาทกรรม 
หมายถึงรูปแบบของความคิดเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง โดยแสดงออกผ่านทางการพูดรูปแบบวัฒนธรรม ความเชื่อ ค่านิยม หรือนิยามที่ใช้บ่อยๆ และสื่อต่างๆเพื่อที่จะคงไว้ซึ่งลักษณะของวาทกรรม ซึ่งมีผลต่อการควบคุมสังคมสถาบันและปัจเจกบุคคลเกิดจากผู้อำนาจในสังคมเพื่อปลูกฝังความคิดความเชื่อผ่านขนบธรรมเนียมจารีต ประเพณี ศาสนา ว่าคุณค่าของผู้หญิง คือ ทำตัวให้เป็นที่น่าปรารถนาของผู้ชายและผู้ชายเป็นผู้ตัดสินคุณค่าของผู้หญิง

 การจำกัดสิทธิเสรีภาพของสตรี
ใช้เพศเป็นตัวแบ่ง และเป็นบ่อเกิดของความเหลื่อมล้ำทางสังคมจะเห็นได้จากวาทกรรม เรื่องความเป็นแม่ศรีเรือน คือ อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน  ดังเช่น  สังคมจีนสมัยก่อนสุดยอดของผู้หญิงต้องมีเท้าเล็ก ซึ่งเป็นกุศโลบายทำให้ไม่สามารถเดินไปไหนได้สะดวก การจำกัดอยู่กับเรื่องความบริสุทธิ์ ให้ความสำคัญกับการรักนวลสงวนตัว โดยใช้การกล่าวอ้างด้วยเหตุผลต่างๆ

ทฤษฏีของอริสโตเติล ได้กล่าวไว้ว่า โดยธรรมชาติผู้ชายอยู่เหนือกว่าและอยู่ในฐานะผู้ปกครอง ส่วนผู้หญิงนั้นด้อยกว่าอยู่ในฐานะผู้ถูกปกครองและผู้หญิงก็คือผู้ชายที่เสื่อมสมรรถภาพนั่นเอง

คัมภีร์ไบเบิล ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับผู้หญิง โดยมีการใช้ระบบสองมาตรฐานอย่างเห็นได้ชัด  คือ ตั้งแต่แรกเกิดสิทธิของเด็กผู้หญิงจะถูกมองว่ามีมลทินสกปรกมากกว่าผู้ชายและเธอจะไม่สามารถเลือกคู่ครองเองได้

   “ตกลงสถานะของผู้หญิงจริงๆแล้วคืออะไรกันแน่ คน หรือว่าทรัพย์สินสาธารณะ”

ทฤษฏีบลุคลิกภาพ 

ซิกมุนฟรอยย์
แนวคิดการอิจฉาอวัยวะเพศชาย “สัญลักษณ์แห่งความมีอำนาจ”แต่ผู้หญิงไม่มีจึงรู้สึกว่าถูกพรากของหวงแหนไป และแสดงออกชดเชยเมื่อโตขึ้นแบบสตรีเช่นการดูแล
การเอาใจเด็ก  งานบ้าน รวมทั้งการหึงหวงสามีและลูกชายและเป็นที่มาของอาการหลายอย่าง เช่น ความรู้สึกว่าตนเองไร้อำนาจ ต้องพึ่งพาผู้ชายความรู้สึกที่ต้องการมีผู้ชายในชีวิตเพื่อทำให้ชีวิตมีความสมบูรณ์

ดร.สติฟฟ์
ลักษณะประกอบที่เป็นแกนกลางของผู้หญิงคือ ความหลงใหลในตนเองแบบผู้หญิงการชอบ ทำร้ายตัวเองและความเฉี่อยชาเพศหญิงเป็นเพศที่ไร้สาระโง่เขลาเหมาะสมที่จะทำงานบ้านและอยู่ใต้อำนาจของสามี 

ทัศนะของ  อีริค  อีริคสัน  (Erik  Erikson)
กล่าวถึง เอกลักษณ์ของผู้หญิงเอาไว้ว่า“ผู้หญิงส่วนมากจะไม่สามารถหาเอกลักษณ์ของตนเองได้ จนกระทั่งเมื่อเสามารถใช้เสน่ห์ที่มีอยู่ผูกมัดใจชายที่ตัวเองพึงใจแบะประสบความสำเร็จนับแต่นั้นมา เธอก็จะเลือกคุณลักษณะที่ดึงดูดใจชายคนรักได้ตลอดไปมาเป็นเอกลักษณ์ของตน”ผู้หญิงรู้สึกไม่มีความมั่นใจเพราะขาดสัญลักษณ์แห่งอำนาจ จึงแสดงออกเพื่อชดเชยความรู้สึกดังกล่าว  ได้แก่  ความต้องการเป็นเพศชาย หรือการหน่วงเหนี่ยวจับจองผู้ชายสักคนหนึ่งเป็นที่พึ่ง

ผู้คัดค้าน

นักสตรีนิยม กล่าวว่าทฤษฏีของฟรอย์ยังตั้งอยู่บนความเชื่อที่ว่าสภาพทางชีวะจะเป็นตัวกำหนดทุกอย่าง แนวคิดของการอิจฉาที่แท้จริงน่าจะมาจาก ความอิจฉาสถานะทางสังคมของผู้ชายที่มีเสรีภาพมากกว่า
ทฤษฏีของฟรอย์  
นั้นเป็นเพียงการสืบทอดปรัชญาของอริสโตเติล และแนวคิดนี้ก็ได้ทำการพิสูจน์สำเร็จแล้วว่าไม่เป็นความจริง
ไฟร์เดน
มายาคติสตรีคือเป็นธรรมดาที่ผู้หญิงจะต้องหัวอ่อนพึ่งพาคนอื่นแต่ผู้หญิงที่อยากจะก้าวหน้าแลเพิ่มพูนสติปัญญานั้น 
เป็นพวกจิตผิดปกติ แนวคิดของฟรอย์เป็นมายาคติแบบสตรี ที่ปิดกั้นชีวิตและปฏิเสธอนาคตที่ดีกว่าของผู้หญิง

ความสวยภายนอก ! เท่านั้นหรือที่ใช้วัดคุณค่าของผู้หญิง

            ปัจจุบันผู้หญิงส่วนใหญ่ละทิ้งการสร้างคุณค่าภายในตนเอง  ไปแสวงหาแต่เพียงคุณค่าภายนอก  เช่น  พยายามแต่งตัวตามแฟชั่น  พยายามปรับปรุงรูปร่างหน้าตาให้สวยงาม (เพราะลุ่มหลงกับความงามในอุดมคติที่สังคมกำหนดขึ้น) ตั้งแต่แต่งหน้า  ไปจนถึงทำศัลยกรรมเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอก  จนอาจเกิดเป็น  โรคจิตที่เกิดจากความไม่พอใจในรูปร่างของตนเองชื่อเป็นทางการว่า ( Body dimorphic disorder : BDD ) จนลืมนึกถึงคุณค่าที่แท้จริงของตนเอง

“เห็นได้จากการเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

ของสถาบันเสริมความงามและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงาม"

จากการศึกษาสรุปได้ว่าสิ่งเหล่านี้เกิดจาก  
3  ปัจจัยหลัก  คือ

1 วาทกรรม

2 สื่อมวลชน

3 ระบบทุนนิยม